[x] ปิดหน้าต่างนี้
 


 
 


เนื้อหา : บทความสาระน่ารู้
หมวดหมู่ : ความรู้เกี่ยวกับ IT
หัวข้อเรื่อง : ไขคำตอบ ทำไมเราถึงต้องเลือกกินข้าวกล้อง?

พุธ ที่ 21 เดือน เมษายน พ.ศ.2564

คะแนน vote : 62  

 ไขคำตอบ ทำไมเราถึงต้องเลือกกินข้าวกล้อง?

ไขคำตอบ ทำไมต้องเลือกกินข้าวกล้อง …หนึ่งในอาหารชีวจิต ที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ เมื่อนึกถึงต้องมีชื่อ ข้าวกล้องอาหารแนวสุขภาพมาด้วยแน่นอน เพราะอาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูชีวจิต ย้ำเสมอว่าให้รับประทานแป้งที่ไม่ขัดขาว เพราะแป้งขัดขาวทำให้ร่างกายขาดวิตามินหลายตัว และเป็นสาเหตุให้เกิดโรคนานาชนิด “ข้าวกล้อง” จึงรับหน้าที่เป็นพระเอกของชาวชีวจิตเสมอมา

ข้าวกล้องที่ว่านี้รวมไปถึงข้าวมันปู ข้าวซ้อมมือ และข้าวแดง เพราะข้าวทุกชนิดที่กล่าวมีจุดสำคัญอย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือ เป็นข้าวซึ่งเอาแต่เปลือกออกอย่างเดียวเท่านั้น ตรงนี้เองทำให้สารอาหารที่มีเมล็ดข้าวไม่ถูกขัดออกไปด้วยข้าวกล้องจึงยังคงคุณค่าให้แก่ร่างกายอย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งอาจารย์สาทิสเคยบอกเล่าถึงคุณประโยชน์ของข้าวกล้องไว้หลายประการดังนี้

อันดับแรก ข้าวกล้องมีสารอาหารหลายชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย และหากสังเกตให้ดีจะพบว่าที่ปลายเมล็ดข้าวด้านหนึ่งจะมีส่วนที่มีสีค่อนข้างเข้ม มีรอยร้าวๆ ถ้าหลุดออกมาจะทำให้เมล็ดข้าวแหว่ง ตรงนั้นคือจมูกข้าว ส่วนที่ดีที่สุดสำหรับร่างกาย เพราะเต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และ DNA/RNA ที่จะเข้าไปช่วยสร้างเซลล์ที่ดีในร่างกาย

ข้าวกล้องมีสารอาหารหลายชนิด

นอกจากสารอาหารในจมูกข้าวแล้ว ยังมีวิตามินอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งวิตามินบี 1 บี6 บี5 ซึ่งเป็นวิตามินกลุ่มบำรุงประสาท วิตามินอีที่เป็นน้ำมันชนิดดีช่วยลดคอเรสเตอรอลและป้องกันโรคหัวใจ และกรดโฟลิกที่ช่วยบำรุงเลือด ที่สำคัญคือ ข้าวกล้องมีกากใยที่ดี ช่วยดูดซึมน้ำในลำไส้ใหญ่และช่วยให้ของเสียเคลื่อนตัวจากลำไส้ได้ดีขึ้น

แต่ถึงแม้ข้าวกล้องจะมีประโยชน์มากอย่างไร หลายคนก็ยังบ่นว่าข้าวกล้องไม่อร่อยเพราะรสชาติไม่คุ้นลิ้น และบางคนก็ว่าข้าวกล้องแข็ง กินยาก เรื่องนี้อาจารย์สาทิสบอกเคล็ดไม่ลับการกินข้าวกล้องให้อร่อยว่า

“ให้นำข้าวไปแช่น้ำก่อนสักชั่วโมงหรือสองชั่วโมงแล้วจึงนำไปหุงแบบไม่เช็ดน้ำ หรือหากอยากให้นุ่มมากแช่ค้างคืนไว้ก็ได้ แต่เวลาหุงต้องระวัง อย่าให้น้ำมาก เพราะข้าวจะแฉะ เคล็ดลับที่สองคือ การเคี้ยว ควรเคี้ยวอย่างช้าๆ อย่างน้อย  20-30 ครั้ง เพราะจะรู้สึกว่ายิ่งเคี้ยวยิ่งมัน และสักพักหนึ่งจะรู้สึกหวานในปาก”

นอกจากสารอาหารในจมูกข้าว

แต่หากไม่มีเวลาว่างพอจะตระเตรียมการหุงข้าวกล้องหรืออยากเปลี่ยนรสชาติ แต่ยังอยากได้สารอาหารครบถ้วน แนะนำให้หันมารับประทานขนมปังโฮลวีท (ทำจากข้าวสาลี) โดยอาจนำมาดัดแปลงเป็นแซนด์วิชไส้ต่างๆ เช่น เนยถั่ว ปลาทูน่า ก็ช่วยเพิ่มความแปลกใหม่ได้ดีไม่แพ้กัน

แถมท้ายอีกนิดว่า ในยุคที่ผู้คนตื่นตัวเรื่องภาวะโลกร้อนและการอนุรักษ์พลังงานอย่างนี้ การกินข้าวกล้องถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีในการช่วยประหยัดพลังงาน เพราะข้าวกล้องไม่ต้องผ่านกระบวนการในโรงสีข้าวหลายขั้นตอนดังข้าวขาวถือได้ว่าแค่กินข้าวกล้องก็ช่วยลดโรคร้อนแล้ว

เลือกซื้อข้าวกล้องแบบนี้สิดี

-ข้าวกล้องต้องเต็มเมล็ด ไม่มีรอยแหว่งตรงปลาย เพราะส่วนนั้นคือ “จมูกข้าว” ซึ่งมีประโยชน์มากค่ะ

-เลือกข้าวกล้องที่ตากหรืออบจนแห้งสนิท ไม่มีกลิ่นอับ กลิ่นชื้น ไม่ขึ้นรา และไม่มีมอดปน

-ซื้อในปริมาณน้อย ๆ ให้พอสำหรับ 2-3 สัปดาห์ เพื่อความสดใหม่นั่นเองค่ะ

การรับประทานข้าวกล้องสําหรับผู้ที่รับประทานใหม่ ๆ อาจจะไม่ชิน ทําให้รู้สึกฝืดคอแต่หากรับประทานไประยะหนึ่งจะรู้สึกว่า ข้าวกล้องหอม ยิ่งเคี้ยวนาน ๆ ยิ่งจะได้รสชาติความหวานอร่อยของข้าว

ประโยชน์ของข้าวกล้อง ที่คุณควรรู้!

1.กระตุ้นระบบขับถ่าย

ข้าวกล้องมีใยอาหารสูงจึงช่วยทำให้ระบบขับถ่ายคล่อง แก้อาการท้องผูก ทั้งยังช่วยป้องกันลำไส้อักเสบ

2.ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

เป็นแหล่งที่ดีของสารต้านอนุมูลอิสระ อย่าง ฟีนอลิก เมื่อรับประทานเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

3.ป้องกันโรคเหน็บชา

ข้าวกล้องมีวิตามินบี 1 มากกว่าข้าวขาวถึง 4 เท่าจึงช่วยป้องกันโรคเหน็บชาได้ดี

4.ป้องกันโรคปากนกกระจอก

ข้าวกล้องอุดมไปด้วยวิตามินบี 2 จึงช่วยป้องกันและรักษาโรคปากนกกระจอกได้

5.ป้องกันโรคโลหิตจาง

ข้าวกล้องมีธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงโลหิตและบำรุงร่างกายให้แข็งแรง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง

6.ป้องกันโรคหัวใจ

ข้าวกล้องช่วยป้องกันความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจอุดตัน จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ

7.ป้องกันอาการอ่อนเพลีย

ข้าวกล้องอุดไปด้วยวิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 จึงช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลียของร่างกาย เหนื่อยง่าย แขน-ขาไม่มีแรง หอบเหนื่อย และเบื่ออาหาร

ประโยชน์มากอย่างนี้ จะไม่เปลี่ยนมากินข้าวกล้องเชียวหรือคะ

ที่มา: นิตยสารชีวจิต ฉบับ 247

 



เข้าชม : 625


ความรู้เกี่ยวกับ IT 5 อันดับล่าสุด

      ไข้เลือดออก (Dengue fever) 9 / ส.ค. / 2566
      “ไซยาไนด์” สารพิษอันตรายถึงชีวิต อาการเป็นอย่างไร พร้อมวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น 27 / เม.ย. / 2566
      Heat Stroke (โรคลมแดด) โรคที่เกิดช่วงหน้าร้อน 27 / เม.ย. / 2566
      แนะ 4 วิธี ป้องกันโรคฝีดาษลิง 26 / ก.ค. / 2565
      7 วิธี ง่าย ๆ ในการเริ่มลดไขมัน 18 / ก.ค. / 2565