พอเห็นแดดบ้านเราแล้วก็อดเป็นกังวลเรื่องผิวพรรณไม่ได้ วันนี้จึงมีสมุนไพรฤทธิ์เย็น จากธรรมชาติที่สามารถปลูกได้ในรั้วบ้านมาฝาก เพื่อช่วยดูเเลผิวคุณก่อนเเละหลังออกแดด พร้อมเทคนิคการนำมาใช้สำหรับฟื้นฟูผิวให้กลับมาสวยใสเหมือนเดิม
พืชแต่ละชนิดที่เรานำมาเเนะนำวันนี้ ล้วนเป็น สมุนไพรฤทธิ์เย็น ที่สามารถนำส่วนต่าง ๆ มาใช้เป็นวัตถุดิบพอกผิวสไตล์โฮมเมดสำหรับก่อนเเละหลังออกแดด เพื่อให้ผิวเย็นสบาย ชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองจากเเสดงแดด สวยได้ในราคาประหยัด เเต่จะมีพืชสมุนไพรใดบ้างนั้น ไปดูพร้อมกันเลย
1.ว่านหางจระเข้
สมุนไพรชนิดแรกที่ขึ้นชื่อเรื่องการบำรุงผิว นั่นก็คือ ว่านหางจระเข้ ด้วยคุณประโยชน์ที่ครอบจักรวาลจึงเเทบไม่มีใครไม่รู้จักพืชสมุนไพรชนิดนี้เเน่นอน และถ้ายิ่งเป็นเรื่องของการช่วยรักษาผิวจากรอยไหม้ หรือหมองคล้ำจากแดดละก็ ว่านหางจระเข้ถือเป็นตัวช่วยสุดฮิตที่ดีมาก ๆ สำหรับขั้นตอนการนำมาใช้นั้น หลังจากคุณตัดว่านหางจระเข้มาเเล้ว ให้นำไปล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย เเละตัดแบ่งออกมาใช้ตามปริมาณที่ต้องการ และเก็บส่วนที่เหลือไว้ในตู้เย็นโดยใส่ภาชนะที่ปิดสนิท จากนั้นค่อย ๆ ตัดขอบหนามออก เเละลอกเปลือกเขียวตัดเอามาใช้เฉพาะส่วนที่เป็นเนื้อวุ้นใส ๆ ด้านใน ล้างทำความสะอาดยางสีเหลืองออกให้หมด ก่อนฝานบาง ๆ หรือบดละเอียด นำมาโปะผิวบริเวณที่ต้องการ แค่ทิ้งไว้สัก 15 นาที ก็ช่วยฟื้นฟูผิวได้แล้วค่ะ นอกจากนี้ว่านหางจระเข้ยังช่วยรักษาแผลเป็น แผลน้ำร้อนลวก ทั้งยังช่วยเติมน้ำให้ผิวที่แห้งกลับมาชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง เป็นพืชสมุนไพรที่ถ้ามีอยู่ในรั้วบ้านเอาไว้ รับรองว่าได้หยิบมาใช้จนคุ้มแน่นอน
2.แตงกวา
ภาพที่เห็นสาว ๆ หั่นแตงกวาออกเป็นแว่นบาง ๆ แล้วนำมาโปะหน้าเเละโปะตานั้น คงเป็นเทคนิคความงามที่หลาย ๆ คนคงเคยลองทำ เพราะในแตงกวามีทั้งน้ำ โพแทสเซียมซัลเฟต วิตามินเอ และวิตามินซี ที่สามารถช่วยบำรุงผิวได้อย่างดี โดยเฉพาะหลังจากออกไปเจอแดดมาทั้งวัน จนบางครั้งอาจถึงขั้นมีอาการแดง หรือแสบผิว แตงกวาฉ่ำ ๆ จะสามารถช่วยลดปัญหาผิวในจุดนี้ได้ค่ะ ใครถนัดใช้แบบไหนก็ลงมือทำตามสูตรได้เลย มีวิธีง่าย ๆ ตั้งแต่การนำมาหั่นเป็นแว่นแล้วโปะทิ้งไว้บนผิว ไปจนถึงการนำมาปั่นให้กลายเป็นน้ำ หรือเนื้อข้น ๆ ไว้สำหรับใช้ร่วมกับสมุนไพรบำรุงผิวอื่น ๆ หรือจะใช้สำลีชุบแล้วนำมาพอกผิวโดยตรงเลยก็ได้ค่ะ ไม่ว่าจะบำรุงด้วยสูตรไหน ก็อย่าลืมล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด ก่อนอวดผิวสวยหลังฟื้นฟูกันด้วยนะคะ
3.ใบบัวบก
ถึงไม่ได้ช้ำในก็ให้ใบบัวบกเป็นตัวช่วยได้เหมือนกันนะคะ เพราะอาการแสบร้อนผิวจากแดดในช่วงหน้าร้อน สามารถบรรเทาได้ด้วยใบบัวบกที่นิยมนำมาทำเป็นน้ำสมุนไพรแก้ร้อนในนี่แหละค่ะ โดยอีกหนึ่งความพิเศษของใบบัวบกก็คือ การปกป้องเซลล์ต่าง ๆ จากแสงแดด ช่วยเพิ่มวามชุ่มชื้น และซ่อมแซมชั้นผิว ถ้าได้ใบบัวบกสักกำก็สามารถทำมาส์กบำรุงดี ๆ ได้สบายเลย เพราะแค่เด็ดใบมาล้างทำความสะอาด แล้วนำไปปั่น หรือตำให้ละเอียด ก็สามารถนำมาใช้พอกผิวได้แล้ว โดยแต่ละครั้งควรพอกทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที เท่านี้ผิวก็จะได้รับการฟื้นฟูจากแสงแดด ง่ายขนาดนี้จะเด็ดจากต้นมาทำบ่อยแค่ไหนก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากต้องการนำน้ำใบบัวบกที่ปั่นแล้วมาแช่เย็นเก็บไว้ก็ได้ เเต่ไม่ควรเก็บใว้นานเกิน 2-3 วัน นะคะ
4.ผักเบี้ยใหญ่
ผักเบี้ยใหญ่ อาจไม่ใช่พืชพรรณที่ทุกคนคุ้นเคยเเละรู้จักหน้าคาดตากันนัก เเต่ขอบอกว่าเราสามารถพบพืชสมุนไพรนี้ได้ง่าย ๆ ริมทาง ซึ่งหลายคนหากไม่รู้จักก็อาจจะคิดว่านี่เป็นเพียงเเค่วัชพืช เเต่หากอ่านบทความนี้จบเเล้ว เมื่อทราบถึงประโยชน์ของพืชต้นจิ๋วนี้เเล้วละก็ ครั้งหน้าลองเก็บมาใช้ช่วยบำรุงดูแลผิวในช่วงหน้าร้อนกันได้เลย พร้อมวิธีการนำมาใช้ที่เเสนง่ายเช่นเดียวกับใบบัวบก อันดับแรกให้นำใบมาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย เเล้วค่อยนำไปตำหรือปั่นเพื่อให้ได้น้ำมาใช้สำหรับพอกผิวนั่นเองค่ะ
5.ว่านรางจืด
พืชสมุนไพรฤทธิ์เย็นชนิดสุดท้ายที่จะมาแนะนำกันในวันนี้ ก็คือ ว่านรางจืด ค่ะ ซึ่งว่านรางจืดนี้ได้ชื่อว่าเป็นสมุนไพรล้างพิษขั้นสุดยอด ในสรรพคุณมากมายหนึ่งในนั้นคือช่วยดูแลเรื่องปัญหาผิว ทั้งลดการอักเสบ ผดผื่นคัน ป้องกันผิวหนังก่อนออกไปเจอแสงแดด ไปจนถึงช่วยรักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก น้ำและกากที่เหลือหลังจากการต้มว่านรางจืดเเล้ว สามารถนำมาพอกหน้าพอกผิวให้อาการแสบร้อนลดลงได้ ช่วยให้ผิวรู้สึกเย็นสบายในช่วงที่อากาศร้อน ๆ นอกจากสรรพคุณทางยาเเล้ว ว่านรางจืดยังนิยมนำมาปลูกเป็นไม้เลื้อยใช้ประดับอาคารบ้านเรือนให้ดอกสีม่วงห้อยระย้าดูสวยงาม
story : Kamonchanok.L
https://www.baanlaesuan.com/