[x] ปิดหน้าต่างนี้
 




                                                                        
 

  

ข่าวประชาสัมพันธ์
18 มกราคม วันกองทัพไทย

อังคาร ที่ 17 เดือน มกราคม พ.ศ.2555


            
 


วันกองทัพไทย

            เป็นวันที่ระลึกในวาระที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาของพม่า
โดยถือเอาวันที่18 มกราคมของทุกปีเป็นวันกองทัพไทย ตามการคำนวณจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ที่ระบุว่าพระองค์กระทำยุทธหัตถีในวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง จ.ศ. 954 คำนวณได้ตรงกับวันที่ 18 มกราคม พ.ศ.2135 (บางตำราว่า ปี พ.ศ. 2136)

            เดิมนั้นกระทรวงกลาโหมได้กำหนดให้วันที่ 8 เมษายนของทุกปีเป็นวันกองทัพไทย ต่อมาในปี พ.ศ.2523 ได้เปลี่ยนโดยให้ถือเอาวันที่ 25 มกราคม เป็นวันกองทัพไทยตามมติของคณะรัฐมนตรีในสมัยนั้น ภายหลังได้มี
นักประวัติศาสตร์หลายท่านได้ตรวจสอบและพบว่าวันที่ทรงกระทำยุทธหัตถีนั้นแท้ จริงแล้วไม่ได้ตรงกับวันที่ 25 มกราคม แต่น่าจะตรงกับวันที่ 18 มกราคม ปีดังกล่าวทางราชการยังคงถือเอาวันที่ 25 มกราคม เป็นวันกองทัพไทยต่อไป จนกระทั่งวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ.2549 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบตามที่ กระทรวงกลาโหมเสนอให้เปลี่ยนแปลงกำหนดวันกองทัพไทยจากวันที่ 25 มกราคม ของทุกปีเป็นวันที่ 18 มกราคม ของทุกปี และอนุมัติให้เป็นวันหยุดราชการของกระทรวงกลาโหมตามหลักการเดิม

ความสำึคัญ

           กองทัพไทย 3 เหล่า อันได้แก่ กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ต่างเป็นกำลังสำคัญ
ในการป้องกันประเทศชาติจากการรุกรานของบรรดาเหล่าราชศัตรูในยามสงคราม และในยามสงบ
กำลังพลของกองทัพทั้ง 3 เหล่า ก็มีส่วนสำคัญอย่างมากในการพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ ดังนั้นจึงได้กำหนดให้มีการจัดงานวันกองทัพไทยในวันที่ 25 มกราคมของทุกปี

ประวัติ

            สาเหตุที่กำหนดให้ วันที่ 25 มกราคม ของทุกปี เป็นวันกองทัพไทยนั้นเนื่องจากเป็นวันที่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จอมทัพไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยาทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะต่อ สมเด็จพระมหาอุปราชาแห่งพม่าและผลแห่งชัยชนะในครั้งนั้น ทำให้ข้าศึกไม่กล้าเข้ามารุกรานไทยทุกทิศทาง
เป็นเวลาถึง 150 ปี
 
วันกองทัพบก

              การกำหนดว่าวันไหนเป็นวันที่ระลึกของเหล่าทัพ ใด เริ่มมีมาตั้งแต่สมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๕ ครั้งนั้นรัฐบาลได้จัดให้มีวันที่ระลึกคล้ายวันสถาปนาหน่วยราชการต่างๆ ขึ้น และประกาศให้วันที่ "๘ เมษายน" เป็น "วันกลาโหม" โดยพิจารณาเห็นว่า วันที่ ๘ เมษายน พ.ศ.๒๔๓๐ เป็นวันที่ออกประกาศการจัดการทหารและพระราชบัญญัติจัดตั้ง กรมยุทธนาธิการ ซึ่งถือว่าเป็นวันกำเนิดการทหารไทยแบบสมัยใหม่และมีความเจริญก้าวหน้าติดต่อ กันมาจนทุกวันนี้ ในปีต่อมาสำนักนายกรัฐมนตรีได้ออกประกาศกำหนดวันที่ระลึกของกองทัพบก คือ วันที ๒๘ กรกฎาคม กองทัพเรือ คือวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน และ กองทัพอากาศ คือวันที่ ๑๐ มกราคม ตามลำดับ

            การที่กองทัพบกเสนอวันที่ ๒๘ กรกฎาคม เป็นวันกองทัพบกในครั้งนั้น เนื่องจากวันที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๘๔ เป็นวันที่กองทัพไทยได้ฉลองชัยชนะกรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศส โดยกระทำพิธีสวนสนาม
รับมอบดินแดนในอินโดจีน ที่จังหวัดพระตะบอง โดยมี พล.ท.หลวงพรหมโยธี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีดินแดนที่ประเทศไทยได้รับคืนคราวนั้นคือ ดินแดนของไทยทั้งหมดที่เสียให้แก่ฝรั่งเศส

การกำหนดวันกองทัพไทยและวันกองทัพบก

            นับ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๒ รัฐบาลในสมัยจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้กำหนดให้วันที่ ๘ เมษายน  ซึ่งเป็นวันระลึกวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหมและถือเป็นวันที่มีการปรับ ปรุงการทหาร จากการจัดอัตรา
กำลังแบบโบราณมาเป็นการจัดอัตรากำลังแบบปัจจุบันเป็นวันกองทัพไทย

           เมื่อ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใน พ.ศ.๒๕๒๓  ได้ดำริว่า  วันกองทัพไทยควรเป็นวันที่มีความสำคัญและมีความหมายยิ่ง สำหรับทหาร
ทั้งสามเหล่าทัพ พึงระลึกด้วยความภาคภูมิใจ ปลุกใจให้เกิดความรักและหวงแหนชาติบ้านเมือง
และพร้อมที่จะสละชีวิตและเลือดเนื้อเป็นชาติพลี ตลอดจนส่งเสริมความสามัคคีในหมู่ทหาร  ทั้งเป็นที่ชื่นชมยินดีของปวงชนชาวไทยอีกด้วย  คณะรัฐมนตรีจึงมีมติกำหนดให้ วันที่ ๒๕ มกราคม  ซึ่งตรงกับวันกระทำยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชของทุกปีเป็นวันกองทัพ ไทย ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๔

            ในส่วนของกองทัพบก เดิมกำหนดให้วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่กองทัพไทยฉลองชัยชนะ
กรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศส  โดยกระทำพิธีสวนสนามรับมอบดินแดนในอินโดจีนที่จังหวัดพระตะบอง เป็นวันกองทัพบกตั้งแต่  พ.ศ. ๒๔๘๕   ต่อมาใน  พ.ศ. ๒๔๙๔  สภากองทัพบกได้เสนอ
ขอวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ทรงกระทำยุทธหัตถีชนะสมเด็จพระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดี  เป็นวันกองทัพบก ซึ่งผลการคำนวณในขณะนั้นตรงกับวันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ.๒๑๓๕  เนื่องจากพิจารณาเห็นว่า การกระทำยุทธหัตถีครั้งนั้น นับเป็นการยุทธ์ทางบกครั้งยิ่งใหญ่ ชัยชนะของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้รับการกล่าวขวัญและสรรเสริญโดยทั่วไป วันดังกล่าวจึงเป็นวันที่มีความสำคัญยิ่งต่อปวงชนชาวไทย เป็นวันที่คนไทยพึงระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณด้วยความภาคภูมิใจ สำนักนายก รัฐมนตรีจึงประกาศให้วันที่ ๒๕ มกราคม ของทุกปีเป็นวันกองทัพบก

            ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๘  คณะรัฐมนตรีได้ลงมติอนุมัติให้วันที่   ๒๕   เมษายน  ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและวันที่   ๑๘  มกราคม ของทุกปีเป็นวันยุทธหัตถี ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามหลักฐานที่ราชบัณฑิตยสถานและคณะกรรมการเอกลักษณ์ ของชาติเสนอ ซึ่งเป็นผลทำให้ประวัติศาสตร์ของวันยุทธหัตถีเปลี่ยนไป ดังนั้น เพื่อดำรงความมุ่งหมายเดิมในการกำหนด
วันที่ระลึกกองทัพไทยและกองทัพบก รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับมติของคณะรัฐมนตรีดังกล่าว  กระทรวง
กลาโหมและกองทัพบก จึงได้พิจารณาเปลี่ยนแปลงกำหนดวันกองทัพไทยและวันกองทัพบก จากเดิมวันที่ ๒๕ มกราคม เป็นวันที่ ๑๘ มกราคม ของทุกปี โดยเริ่มใช้ครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๐  เป็นต้นไป

การกำหนดชื่อค่ายทหารและการสร้างอนุสาวรีย์

             พระ นาม “นเรศวร” นอกจากจะเป็นที่ครั่นคร้ามของศัตรูในสมัยโบราณแล้วกองทัพบกยังถือเป็น “มหามงคลนาม” และได้นำมาใช้ในกิจการด้านการทหาร เพื่อความเป็นมงคลอย่างสูง เช่น การใช้เป็นชื่อแผนยุทธการ, การขอพระราชทานตั้งชื่อค่ายทหาร ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองทัพภาคที่ ๓ ที่พิษณุโลกซึ่งเป็นเมืองที่ทรงพระราชสมภพ ว่า “ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๘ และได้จัดสร้างอนุสาวรีย์ของพระองค์ท่านประดิษฐาน เป็นที่เคารพสักการะของกำลังพล และประชาชนทั่วไป  ไว้ภายในค่ายแห่งนี้ด้วย นอกจากนี้ในบริเวณค่ายโสณบัณฑิตย์ของกองพันทหารราบที่ ๕ กรมทหารราบที่ ๗ ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน  ยังได้  จัดสร้างอนุสาวรีย์ของพระองค์ท่าน เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
และเป็นศูนย์รวมแห่งความจงรักภักดีของกำลังพลและประชาชนทั่วไป

     “วันกองทัพไทย” และ “วันกองทัพบก” ซึ่งเป็นวันครบรอบวาระที่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะแผ่พระบารมีให้ปรากฎในประวัติศาสตร์ชาติไทยนี้ จึงเป็นวันสำคัญที่กำลังพล
ในกองทัพทุกนายจะได้ตระหนักถึงภาระหน้าที่ อันสำคัญยิ่งที่จะรักษาหวงแหนปกป้องบ้านเมืองและ
สืบทอดเจตนารมณ์ของพระองค์ท่าน   เพื่อรักษาแผ่นดินนี้ให้เป็นมรดกของลูกหลานไทยสืบไป



เข้าชม : 1421


ข่าวประชาสัมพันธ์ 5 อันดับล่าสุด

      ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอมะนัง ขอเชิญร่วมลงนามถวายพระพร เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ 1 / พ.ค. / 2567
      งดรับ งดให้ ของขวัญ สุจริต โปร่งใส ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอมะนัง ใสสะอาด 2567\" 25 / ม.ค. / 2567
      ๕ ธันวาคม เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ 30 / พ.ย. / 2566
      ขอเชิญร่วมลงนามถวายพระพร เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 9 / ส.ค. / 2566
      ประชาสัมพันธ์ กศน.อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล เปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 10 / มี.ค. / 2566




ชื่อ/Email :
ใส่รหัสที่ท่านเห็นลงในช่องนี้
ไอคอน : ย่อหน้า จัดซ้าย จัดกลาง จัดขวา ตัวหนา ตัวเอียง เส้นใต้ ตัวยก ตัวห้อย ตัวหนังสือเรืองแสง ตัวหนังสือมีเงา สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน สีส้ม สีชมพู สีเทา
อ้างอิงคำพูด เพิ่มเพลง เพิ่มวีดีโอคลิป เพิ่มรูปภาพ เพิ่มไฟล์ Flash เพิ่มลิงก์ เพิ่มอีเมล์
ความคิดเห็น :


กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพ และอย่าใช้คำพูดที่พาดพิงถึงบุคคลอื่นให้เสียหาย ขอขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ


ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของระบบไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม กรุณาแจ้งที่ ที่นี่ เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

 
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอมะนัง  จังหวัดสตูล
หมู่ที่ 7 ตำบลนิคมพัฒนา  อำเภอมะนัง  จังหวัดสตูล   91130     โทรศัพท์ 074-774471 
โทรสาร  074-774471 
ma.satun@hotmail.com
Powered by MAXSITE 1.10   Modify by   นิกร เกษโกมล   Version 2.05