การตื่นนอนในตอนเช้า เป็นเรื่องยากสำหรับหลาย ๆ คนเลยใช่มั๊ยคะ รู้สึกงัวเงียตอนตื่นนอน ไม่อยากลุกจากที่นอน รู้สึกไม่สดชื่น ไม่กระปรี้กระเปร่าเอาซะเลย บอกเลยว่าถ้าปล่อยไว้เช่นนี้ คุณจะรู้สึกไม่สดชื่น ไม่สดใสไปตลอดทั้งวันเลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นเราเลยนำวิธีง่าย ๆ เพื่อสลัดความง่วง เรียกความสดใสในตอนเช้ามาฝากค่ะ
ทานมื้อเย็นแค่เบา ๆ ก่อนนอน
การทานมื้อเย็นปริมาณมากจนเกินไป ทำให้ร่างกายย่อยอาหารที่ทานเข้าไปไม่ทัน และยังทำให้รู้สึกแน่นท้อง ไม่สบายท้อง และเสี่ยงกรดไหลย้อนอีกด้วย เมื่อเรารู้สึกไม่สบายท้องก็ส่งผลให้นอนไม่หลับ หรือนอนหลับไม่สนิท ทำให้นอนไม่เต็มอิ่มได้ ดังนั้นควรทานมื้อเย็นแค่เบา ๆ งดอาหารทอด ๆ อาหารไขมันสูง เนื้อสัตว์ย่อยยาก เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ของหมักดอง ขนมหวาน อาหารหรือผลไม้ที่มีรสหวาน ทิ้งช่วงห่างกับการนอนอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง เพื่อให้ลำไส้มีเวลาพอที่จะย่อยอาหารได้เสร็จสมบูรณ์และนอนหลับสนิท ไม่ปวดท้องจากการกินมากจนนอนไม่ได้
วางมือถือไว้ให้ไกลจากที่นอน
หลาย ๆ คนคงติดนิสัยเล่นมือถือก่อนนอนใช่มั๊ยคะ แต่ถ้าอยากนอนหลับสบาย จิตใจสงบก่อนนอนล่ะก็ ต้องเลิกเล่นมือถือก่อนนอนซัก 1 ชั่วโมงค่ะ และควรวางมือถือไว้ให้ไกลจากหัวเตียงนอนหรือข้างหมอนหนุนนะคะ เพราะคลื่นจากมือถือที่ปล่อยออกมาสามารถรบกวนคลื่นสมองของเราขณะนอนหลับได้ ทำให้คลื่นสมองเราถูกรบกวนตลอดเวลาจนนอนหลับไม่สบายค่ะ อีกทั้งควรเปิดโหมดป้องกันการรบกวนขณะนอนหลับ เพื่อไม่ให้แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เด้งเตือนเราขณะนอนหลับค่ะ
เปลี่ยนเสียงนาฬิกาปลุก
นักวิจัยค้นพบว่าเสียงปลุกที่ดีที่สุด คือ เสียงธรรมชาติ เช่น เสียงนกร้อง เสียงสายน้ำไหล เสียงคลื่นทะเล ซึ่งสามารถปลุกให้เราตื่นจากการหลับไหลได้ดีและเร็วที่สุด และยังช่วยบำบัดจิตใจเรายามตื่นนอนได้อีกด้วย ไม่เชื่อคืนนี้ลองเปลี่ยนเสียงนาฬิกาปลุกเป็นเสียงธรรมชาติดูสิคะ แล้วคุณจะตื่นมาพร้อมกับรอยยิ้มและความรู้สึกสบายอารมณ์
คิดถึงเรื่องสนุกก่อนนอน
ก่อนจะนอนให้ลองคิดถึงเรื่องราวดี ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกดี มีความสุข ทิ้งเรื่องแย่ ๆ ที่มันรบกวนจิตใจทิ้งไป สร้างความสุข เติมพลังและกำลังใจ ด้วยการนึกถึงเรื่องดี ๆ ก่อนนอน ตามกฎ “Peak-end Rule” ของแดเนียล คาเดห์มัน ศาสตราจารย์เกียรติคุณ มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ผู้ริเริ่มวิชาเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม และได้รับรางวัลโนเบลสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ อธิบายเรื่อง ผลของระดับความสุขที่เพิ่มขึ้นในเชิงวิทยาศาสตร์ เอาไว้ว่า เวลาที่เราประเมินประสบการณ์ว่าดีหรือไม่ดี เรามักจะประเมินประสบการณ์ของเราจากความจำที่เกิดขึ้นตอนความรู้สึกนั้นสูงสุด (Peak) และ ตอนจบ (End) ของเรื่องนั้นว่าเป็นอย่างไร ซึ่งตรงกับสำนวนของญี่ปุ่นที่กล่าวเอาไว้ว่า “ถ้าตอนจบดี ทุกอย่างก็ดีตามไปด้วย” ดังนั้น วิธีการง่ายๆ ที่ทำให้เรามีความสุขกับทุก ๆ วัน คือ การนึกทบทวนถึงเรื่องดี ๆ ที่พบเจอในวันนั้นก่อนนอนทุกคืนอาจจะเริ่มจากความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการที่คุณเห็นคนช่วยคนแก่ข้ามถนนเป็นภาพที่ทำให้เรายิ้มตาม ทำแบบนี้เป็นประจำ แล้วเราจะมีความสุขกับทุกวันของเรามากขึ้นเยอะเลยค่ะ
เปิดหน้าต่างต้อนรับความสดใสของวันใหม่
ลองแง้มม่านไว้เล็กน้อยพอให้แสงแดดอ่อน ๆ ในตอนเช้าลอดเข้ามา เพราะแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่ทำให้เราอารมณ์แจ่มใจ สมองปลอดโปร่ง เช่น ฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin) สารสื่อประสาทที่ช่วยอารมณ์ดี ฮอรโมนเอนดอร์ฟิน (Endorphin) สารแห่งความสุข เป็นต้น นอกจากนี้ เมื่อร่างกายของเราสัมผัสแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า ร่างกายจะสั่งการให้ฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) ที่ทำให้เรารู้สึกง่วงเหงาหาวนอนหยุดทำงาน และยังช่วยลดอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย เห็นความมหัศจรรย์ของการตื่นมารับแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้ากันแล้ว พรุ่งนี้ลองตื่นเช้ากว่าเดิม ลุกขึ้นมาสัมผัสแดดอ่อน ๆ ยามเช้ากันนะคะ
ใช้ยาสีฟันสูตรเย็นในตอนเช้า
อีกหนึ่งทริคสำหรับการสลัดความง่วง ปลุกความสดชื่นยามตื่นนอน คือ การเลือกยาสีฟันสูตรเย็นที่ใช้แล้วตื่นเลย เราจะรู้สึกเฟรช พร้อมลุยวันใหม่ด้วยลมหายใจสดชื่นค่ะ
ดื่มน้ำอุ่นตอนเช้าช่วยทำให้สมองปลอดโปร่ง
ในระหว่างที่เรานอน 7-8 ชั่วโมง ร่างกายของเราจะไม่ได้รับน้ำเลย ดังนั้นเราจะตื่นมาพร้อมภาวะที่ร่างกายขาดน้ำ ส่งผลให้สมองไม่ปลอดโปร่ง อารมณ์ไม่แจ่มใส วิธีง่าย ๆ คือ หลังจากตื่นนอนสักครู่ให้ดื่มน้ำอุ่นหรือชาสมุนไพรอุ่น ๆ ที่มีกลิ่นหอมสดชื่น เพื่อปลุกระบบย่อยของร่างกายให้พร้อมเริ่มวันใหม่ การดื่มน้ำหลังตื่นนอนจะช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น สมองปลอดโปร่ง สดชื่น ร่างกายทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ก่อนนอนคืนนี้และพรุ่งนี้เช้า อย่าลืมลองทำตามเทคนิคง่าย ๆ เหล่านี้ดูนะคะ ทุกคนจะได้ตื่นมาพร้อมกับความสดชื่น สดใส พร้อมลุยกับวันใหม่ พร้อมต้อนรับสิ่งดี ๆ ค่ะ